อยากขาวทำไงดี โลชั่นผิวขาวตัวนี้ใช้แล้วขาวจริงไหม? หาคำตอบได้ที่นี่


ความพึงพอใจทางด้านสีผิวล้วนแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เนื่องด้วยโทนสีผิวที่มีความหลากหลายตามชาติพันธุ์และการดูแลผิว หรือแม้แต่ตามสมัยนิยม เช่นกลุ่มชาติพันธ์ุคอเคซอยด์หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นชาวยุโรปผิวขาวเมื่อสมัย500ปีก่อน ผู้คนสมัยนั้นนิยมการมีผิวขาวซีดเพราะผิวขาวซีดบ่งบอกถึงฐานะของความเป็นชนชั้นสูงที่ไม่ต้องทำงานหนักกลางแจ้งเหมือนกลุ่มชนชั้นล่างที่มีสีผิวไม่ขาวมากนัก ความนิยมผิวขาวซีดเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในสมัยของสมเด็จพระราชินีอลิซเบธที่ 1 แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ พระองค์มักจะใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารตะกั่วกลบผิวและริ้วรอยบนใบหน้า สังเกตได้ชัดเจนจากพระบรมสาทิสลักษณ์ บริเวณพระพักตร์ของพระองค์จะลงสีที่มีความขาวผ่องอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่สารตะกั่วนั้นนับว่าเป็นอันตรายต่อผิวอย่างมากถือเป็นสารต้องห้ามสำหรับเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันเพราะใช้เเล้วมีความเสี่ยงถึงชีวิตเลยทีเดียว 


ความนิยมของผิวขาวซีดดำเนินมาจนถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม การเดินทางไปพักผ่อนย่านชายทะเลเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงมากขึ้น เนื่องจากเครื่องจักรไอน้ำได้เปลี่ยนวิถีการเดินทางให้มีความรวดเร็วไม่ต้องเดินทางนานหลายวันเหมือนแต่ก่อน ผิวสีแทนจึงเปรียบเสมือนเครื่องประดับอีกชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นๆ มีเงินมากพอที่จะไปเที่ยวพักผ่อนไกลๆได้ และเป็นที่นิยมมากขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน 


ในประวัติศาสตร์ของไทยเอง การมีผิวขาวก็บ่งบอกได้ถึงสถานะและเป็นตัวแทนแห่งความงามเช่นเดียวกัน อย่างนางรำสมัยก่อนเมื่อต้องแสดงฟ้อนรำมักจะเเต่งหน้าด้วยการลงผิวให้ขาวโพลนด้วยแป้งอัดแข็งจากจีน เพราะมีความเชื่อว่าเทวดานางฟ้าย่อมมีผิวขาวเหมือนภาพวาดในจิตรกรรมฝาผนังนั่นเอง

ปัจจุบันความเห็นและความชอบด้านสีผิวเริ่มเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนอย่างชัดเจน นิยามความงามเป็นไปแบบปัจเจกมากขึ้น อยู่ที่ว่าใครชอบความงามแบบใด อีกทั้งสีผิวก็ไม่ใช่ตัวบ่งบอกสถานะทางสังคมอีกต่อไปและเป็นเพียงความชอบส่วนบุคคล โลชั่นทาผิวก็มีทั้งโลชั่นเพื่อผิวขาวและโลชั่นเพื่อทำผิวแทน อย่างไรก็ตามโลชั่นผิวขาวในไทยยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปได้มากกว่าอยู่ดี

ในบทความนี้จึงขอนำเสนอเรื่องโลชั่นผิวขาวซึ่งมีอยู่มากมายในท้องตลาด ส่วนผสมก็แตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ถึงแม้จะมีจุดหมายเดียวกันคือช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสแล้วเราจะเลือกใช้อย่างไรให้คุ้มค่าทั้งเงินและเวลาที่เสียไปกับการบำรุงผิว ก่อนอื่นเราไปดูส่วนผสมหลักที่แต่ละแบรนด์มีร่วมกันก่อน

1.วิตามินบี3(Vitamin B3) ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีบีเเละยูวีเอรวมไปถึงการเผาไหม้ผิวจากแสงแดด ลดการเกิดรอยดำรอยแดงบนผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นได้อีกด้วย

2.วิตามินซี(Vitamin C)ส่วนมากแล้วโลชั่นผิวขาวจะใช้วิตามินซีจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสม เช่น วิตามินซีจากผลไม้ตระกูลเบอรี่,อะเซโรล่า เชอรี่เป็นต้น 

ด้วยวิตามินซีนอกจากจะทำให้ผิวกระจ่างใสแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
3.วิตามินอี(Vitamin E) มีส่วนช่วยทำให้รอยแผลเป็น ฝ้า กระ และจุดด่างดำดูจางลง อีกทั้งโลชั่นผิวขาวที่มีส่วนผสมของวิตามินอียังช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดหลังจากจากทำกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี 
ไม่เพียงแต่บรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้เท่านั้น หากใช้วิตามินซีควบคู่กันกับวิตามินอีจะทำให้โลชั่นนั้นมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสียูวีได้มากยิ่งขึ้น

4.ค่าSPFอย่างน้อย15 ช่วงหลายปีมานี้โลชั่นผิวขาวเริ่มมีส่วนผสมของสารกันแดดที่มีค่าSPFมากขึ้น ซึ่งสมัยก่อนจะมีเพียงแค่ยูวีฟิลเตอร์เท่านั้น เพราะต้องยอมรับว่าการที่ผิวคนเราจะสว่างกระจ่างใสได้ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดอันเป็นตัวการทำลายผิวสวยเท่านั้น

เมื่อทราบถึงวิตามินสำคัญๆที่ทำให้ผิวเราสวยกระจ่างใสได้จริงแล้ว เรามาหาคำตอบกันว่ามีโลชั่นผิวขาวตัวไหนบ้างที่มีส่วนผสมข้างต้นและช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสได้ (แต่หากผู้อ่านท่านใดสนใจเพียงอยากได้ผิวที่มีความเนียน นุ่มและชุ่มชื้นอิ่มน้ำเท่านั้น สามารถอ่านได้ที่บทความจัดอันดับโลชั่นที่ขาดไม่ได้ในช่วงหน้าหนาว)

1.ซิตร้า พิงค์กิช ไวท์ ยูวี ออร่า SPF20 ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดจากซิตร้า ด้วยส่วนผสมของเอสเซนส์ที่ใช้กับผิวหน้าแต่อยู่ในรูปแบบของโลชั่นบำรุงผิวกาย อย่างเอสเซนส์เข้มข้นของดอกซากุระ(cherry blossom) และเอสเซนส์น้ำนมข้าวจากธรรมชาติ 100% ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและทำให้ผิวเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นยังมีวิตามินซีและอีช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้ดูจางลง ฟื้นบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใส อีกทั้งวิตามินสองตัวนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกันแดดSPF20 ที่มีอยู่ในโลชั่นผิวขาวขวดนี้ให้ป้องกันผิวคล้ำเสียจากแดดได้ดีมากยิ่งขึ้น คุณจึงมั่นใจได้ว่าผิวจะขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องกังวลว่ารังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดดสามารถทำลายผิวเราได้ เนื้อครีมของซิตร้าขวดนี้อาจไม่ได้เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากนักดังนั้นผู้ที่มีผิวแห้งควรทาซ้ำสักสองรอบเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น

2.Nivea Extra White Repair&Protect Lotion SPF30 PA++ โลชั่นทาผิวขาวที่มีส่วนช่วยในการฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย ด้วยไวท์เทนนิ่งสกัดอนุภาคเล็ก เข้มข้นด้วยวิตามินซีสูงถึง 50เท่า พร้อมด้วยสารปกป้องแสงแดด SPF30 PA++ 
ลชั่นขวดนี้จึงรวมประสิทธิภาพการทำงานเพื่อผิวแบบรอบด้านอย่างแท้จริง ตั้งแต่ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่คล้ำเสีย ลดเลือนจุดด่างดำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส และปกป้องผิวจากรังสียูวีไม่ให้ถูกทำลายจนกลับมาคล้ำเสียอีกครั้ง เรียกได้ว่าสวยจบครบในขวดเดียว แต่โลชั่นผิวขาวขวดนี้อาจมีความมันและเหนอะหนะอยู่บ้างเนื่องด้วยปริมาณSPFที่สูงนั่นเอง

3.Vaseline Healthy white SPF30 PA++ Serum วิตามินบี3คือหัวใจหลักของแบรนด์นี้ เพราะวิตามินตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องการลดจุดด่างดำ ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ลดอาการผิวไหม้จากแสงแดด อีกทั้งวิตามินบี3ยังช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้อีกด้วย 
โดยเซรั่มขวดนี้ผสานการทำงานของไวท์เทนนิ่งแอคชั่น 3เท่า ร่วมกับการปกป้องผิวด้วย SPF30 PA++ ข้อดีของเซรั่มขวดนี้คือซึมซาบเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่เลือกเซรั่มไม่ใช่โลชั่นเนื่องจากเซรั่มตัวนี้มีSPFในปริมาณที่พอเหมาะนั่นเอง


 จะเห็นได้ว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ใช้วิตามินไปครบเสียทุกตัว เพราะกระบวนการทำงานและผลลัพธ์จากการใช้วิตามินเหล่านั้นมีความใกล้เคียงกันมากนั่นเอง หากถามว่าโลชั่นทั้งสามตัวนี้สรุปแล้วใช้ตัวไหนถึงจะขาว คงตอบแบบฟันธงไม่ได้เพราะตัวผู้เขียนเองก็ใช้สลับๆกันไปซึ่งการใช้โลชั่นแต่แบรนด์ก็ทำให้ผิวกระจ่างใสเหมือนๆกันขอเพียงแค่ใช้เป็นประจำสม่ำเสมอก็พอ

Comments